การดูแลรักษาสุขภาพหรือรักษาอาการปวดเมื่อยสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้คนในวัยทำงานมีหลายวิธี มีวิธีหนึ่งเกิดจากความรู้ภูมิปัญญาไทย ที่ยังสามารถบำบัดอาการปวดเมื่อยได้โดยไม่จำเป็นต้องพึงยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบจากแพทย์แผนปัจจุบัน
อุปกรณ์ลูกกลมๆ ห่อด้วยผ้าขาวม้า 1 ผืนใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่มีตัวยาอยู่ในลูกประคบนั้น เป็นภูมิปัญญาของผู้เฒ่าผู้แก่ตำบล วังน้ำคู้ที่ยังปรากฎให้เห็นในการบำบัดรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน
ลุงจำรัส ตักเตือน หนึ่งในกรรมการกลุ่มคลังปัญญา ชมรมผู้สูงอายุ ที่รูจักกันในนาม "หมอนวดผ้าขาวม้า" ตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เจ้าของความคิดลูกประคบผ้าขาวม้า เล่าถึงที่มาของการทำลูกประคบด้วยผ้าขาวม้าว่า คนสมัยก่อนมักเล่นลูกช่วงในเทศกาลสงกรานต์ โดยแบ่งเป็น 2 ฝ่ายให้เท่าๆ กัน แล้วเริ่มโยนลูกช่วง หากเขาขว้างมาโดนเรา เราก็ต้องไปเป็นทาสฝ่ายเขา หากฝ่ายไหนแพ้จะมีการลงโทษ อาจเป็นการรำวงหรือให้ทำอะไรก็ได้
"ลุงได้แนวคิดและวิธีการมัดลูกช่วง นำมาประยุกต์ทำเป็นลูกประคบด้วยผ้าขาวม้า ลุงมีความคิดนี้ตั้งแต่เมื่อปี 2549 หลังกลับจากทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะไปทำงานแบกหามกว่า 20 ปี ทำให้ลุงเกิดอาการปวดเมื่อยแขน ขา นานไปแขนเริ่มยกไม่ขึ้น กล้ามเนื้ออักเสบทั้ง 2 ข้าง
ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอให้ยามากิน กินเท่าไรก็ไม่หาย เลยลองเปลี่ยนไปหาหมอนวด เขานวดแบบ จับเส้น ตอนนั้นทั้งเจ็บและปวดจนน้ำตาไหลแต่ก็ไม่หายเลยมานึกถึงตอนหนุ่มๆ ที่เล่นลูกช่วง ที่มีลักษณะของกลมๆ ผูกมัดด้วยผ้าขาวม้า เลยลองทำแล้วเอามาหนุนหลังนอน เมื่อใช้ส่วนที่ปวดเมื่อยมานอนทับ รู้สึกว่าอาการบรรเทาลงมาก จึงนำความรู้มาเผยแพร่โดยการทำลูกประคบมานวดให้กับคนที่ปวดเมื่อย จนกลายมาเป็นคลังปัญญาในชมรมผู้สูงอายุ"
จากภูมิปัญญาการเล่นลูกช่วงสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ทาง อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) วังน้ำคู้เห็นความสำคัญและสนับสนุนส่งเสริมเรื่องงบประมาณจนกลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้กลุ่มคลังปัญญาผู้สูงอายุภายใต้ การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ลุงจำรัสเล่าถึงข้อดีของการใช้ลูกประคบผ้าขาวม้าว่าการนวดและใช้ลูกประคบผ้าขาวม้าเราสามารถกะน้ำหนักเองว่าสามารถกดจุดตรงนี้แรงได้ เบาได้ แต่ถ้าหากเราไปนวดกับหมอนวดเขาไม่รู้จักน้ำหนักเรา เขาก็นวดเบา นวดแรง กะน้ำหนักไม่ได้ส่วนนี้อาจได้รับความเจ็บปวด
ข้อดีอีกข้อหนึ่งคือไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะทำเอง ใช้เอง หากใครต้องการลูกประคบผ้าขาวม้าไปใช้ลุงจำรัสจะสอนวิธีการมัดลูกประคบให้ฟรีอีกด้วย
วิธีการทำลูกประคบผ้าขาวม้านั้น "ต้องนำผ้าขาวม้ามามัดเข้ากับมือข้างที่ถนัดและมัด ม้วน เข้ากันเหลือปลายผ้าขาวม้าไว้ประมาณ 1 ไม้บรรทัดเพื่อผูกปมด้านบน แล้วดึงให้สุดปลายผ้า ม้วนพับเก็บอีกครั้งส่วนผ้าที่ใช้ต้องเป็นผ้าขาวม้าอย่างเดียวเพราะใช้ผ้าอื่นไม่ได้ อาจมัดไม่สะดวก หรือขณะที่ใช้ลูกประคบอาจทำให้ลื่นเป็นอันตรายได้"
นอกจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำมาผ่อนคลายความปวดเมื่อยให้กับตนเองแล้ว ลุงจำรัสยังเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ทุกชุมชนในตำบล เพื่อนำความรู้ไปปฎิบัติได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ลุงจำรัสบอกถึงว่า ลูกประคบผ้าขาวม้านี้สามารถใช้ได้ดีกับอาการเมื่อย หลังจากนั่งรถมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเอาลูกประคบสอดใส่ไว้บริเวณที่ปวดเมื่อย แล้วกดลงตรงจุดที่ปวดเมื่อยประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็หายดีเป็นปกติ
นี่คือภูมิปัญญาไทยที่ประยุกต์จากการละเล่นในอดีต แต่สามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนวังน้ำคู้และผู้ต้องการบำบัดอาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี
ที่มา: หนังสือนิตยสารหมอชาวบ้าน "เรื่องน่ารู้" ประจำเดือนมกราคม 2556
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น