ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

อย่ามองข้ามฟันน้ำนม


          ปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่โรคฟันผุและปากแหว่งเพดานโหว่ซึ่งเป้นความพิการแต่กำเนิด
          ปัญหาปากแหว่งเพดานโหว่ในเด็กไทย พบประมาณ 1 ใน 400-500 ของการเกิด หรือประมาณ 1,500 รายต่อปี
          ส่วนโรคฟันผุ มีอุบัติการณ์ค่อนข้างสูง การสำรวจในปี 2550 พบว่า เด็กอายุ 3 ปี จำนวน 491,200 คน หรือร้อยละ 61.4 มีฟันน้ำนมผุ โดยมีค่าเฉลี่ยฟันผุถอนอุด 3.2 ชี่ต่อคน
          ลักษณะทางระบาดวิทยาชี้ว่าอัตราการเกิดโรคฟันผุจะเพิ่มอย่างรวดเร็วในช่วงที่เด็กอายุ 1-2 ปี ทั้งนี้ เริ่มพบฟันผุตั้งแต่เด็กอายุประมาณ 9 เดือน ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ฟันที่ผุเกือบทั้งหมดจะเป็นฟันหน้าบน
         ผลกระทบของโรคในช่องปากกับคุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัย
         โรคในช่องปากส่วนใหญ่แม้จะไม่รุนแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต แต่เป็นโรคที่ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชากร ปัญหาสุขภาพของเด็กที่มีสาเหตุมาจากการมีฟันน้ำนมผุ ได้แก่ ความเจ็บปวดทรมาน มีการแพร่กระจายของการติดเชื้อไปยังบริเวณใบหน้าและคอ เราจึงมักเห็นเด็กหน้าบวมจากการปวดฟัน
         มีการศึกษาพบว่าเด็กมีฟันผุหลายซี่ในปากทำให้เด็กมีปัญหาการบดเคี้ยว ส่งผลต่อน้ำหนักและการเจริญเติบโตของเด็ก อาจเป็นสาเหตุให้เด็กแคระแกร็น (เตี้ยกว่ามาตรฐานอายุ) เพราะขาดอาหารเรื้อรังได้ การมีฟันน้ำนมผุยังมีผลต่อการเกินฟันผุและพัฒนาการของฟันแท้ด้วย

พฤติกรรมเสี่ยง เด็กเริ่มแปลงฟันช้า

         เด็กปฐมวัย (0-5 ปี) เป็นกลุ่มที่มีโรคฟันผุมากที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่เข้าถึงบริการน้อยที่สุด เป็นที่ทราบกันดีกว่าเพื่อป้องกันฟันผุ เด็กควรได้รับการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ตั้งแต่ฟันขึ้นชี่แรก และผู้ปกครองควรแปรงให้จนเด็กมีอายุ 7-8 ปี
         ในเด็กปฐมวัย พบว่าเริ่มแปลงฟันครั้งแรกเมื่ออายุเฉลี่ยประมาณ 13 เดือนขึ้นไป ซึ่งค่อนข้างล่าช้าเมื่อคำนึงถึงอัตราการเกิดฟันผุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 9-18 เดือน และผู้ปกครองส่วนใหญ่ปล่อยให้เด็กแปรงฟันเองตั้งแต่อายุประมาณ 2-3 ปี
         การสำรวจของเอแบคโพลล์ ปี 2554 พบว่าผู้ปกครองที่เคยแปรงฟันให้เด็ก ร้อยลำ 28.9 เริ่มแปลงให้เมื่อเด็กมีฟันชี่แรกขึ้น (6 เดือน) ร้อยละ 52.6 เริ่มแปรงเมื่อเด็กเริ่มตั้งไข่ เดินหรือวิ่งได้ (9 เดือน 1 ขวบครึ่ง) ร้อยละ 18.5 เริ่มแปรงเมื่อเด็กตักข้าวกินเองได้หรือมีฟันขึ้นเต็มปาก (2-2 ขวบครึ่ง)
         นอกจากนี้ เด็กส่วนใหญ่แปรงฟันเฉพาะเวลาเช้าเพียง 1 ครั้งและเด็กยังคงดูดนมขวดก่อนนอนแม้จะแปรงฟันแล้วถึงร้อยละ 44

พฤติกรรมเสี่ยง เด็กไทยกินน้ำตาลมากและบ่อยเกินไป

          อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงพื้นฐานที่เป็นภัยคุกคามสุขภาพ คือพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานมัน เค็มมากเกินไปกินผักและผลไม้น้อย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมของปัญหาสุขภาพทั่วไปและสุขภาพช่องปาก
          ข้อมูลการบริโภคน้ำตาลของคนไทยปี 2540-2553 แสดงให้เห็นว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยสูงกว่า 30 กิโลกรัม/คน/ปี เป็นระดับที่มากกว่าที่ควรจะเป็นเกือบ 3 เท่า สำหรับวัยเด็ก
          ปัญหาการบริโภคเริ่มจากการดื่มนมหรืออาหารเหลวที่มีน้ำตาลโดยใช้ขวด ข้อมูลจากสำนักทันตสาธารณสุข พบวาเด็ก 0-3 ปี ยังบริโภคนมหวานร้อยละ 189 เด็กกลุ่มนี้กว่าร้อยละ 60 ยังใช้ขวดซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเกิดฟันผุ
          เด็กแรกเกิด -3 ปี ที่บริโภคนมรสหวาน จะมีฟันผุมากกว่าเด็กที่ไม่บริโภคถึง 3 เท่า แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเด็กที่กินขนมมากกว่าวันละ 2 ครั้ง ก็จะมีฟันผุมากกว่า แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกัน

แก้ปัญหาเด็กฟันผุ ผู้ปกครองคือเป้าหมายหลัก
          เนื่องจากการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัยต้องอาศัยผู้ปกครองลงมือเป็นหลัก การเพิ่มศักยภาพให้ผู้ปกครองสามารถแปรงฟันให้เด็กได้สะอาดและทำอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องจำเป็น
          มีการวิจัยทางสังคม เพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งและทักษะของผู้ปกครองที่เป็นปู่ย่า ตายายพบว่าหากฝึกปฏิบัติแบบตัวต่อตัว (hand-on) เพื่อให้เรียนรู้ท่าทางและวิธีแปรง ให้การแปรงฟันทำพร้อมกับการทำความสะอาดร่างกายตอนอาบน้ำ และใช้แรงเสริมจากกลุ่มและเพื่อนบ้าน จะทำให้ผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กได้สะอาด ทำเป็นประจำ และเด็กมีฟันผุลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือการสนับสนุนความเข้มแข็งชุมชนผ่านทางแกนนำ ช่วยให้ผู้ปกครองแปรงฟันเด็กสม่ำเสมอและเด็กมีฟันผุลดลง
          นอกจากนี้ หากฝึกผู้ปกครองหรือครูให้ตรวจช่องปากเด็กบ่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จะช่วยให้เด็กได้แปรงฟันสม่ำเสมอและมีฟันผุน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ 

ขับเคลื่อนสังคมให้เห็นคุณค่าฟันน้ำนม
          ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคิดว่าฟันน้ำนมเป็นฟันชุดแรกที่มีอายุการใช้งานไม่ยาว หากเสียไปยังมีฟันแท้มาแทนที่
          การเกิดฟันผุในฟันน้ำนมยังเกิดง่ายกว่าและลุกลามเร็วกว่าฟันแท้มาก ผู้ปกครองตั้งตัวไม่ค่อยทันจึงต้องมีการรณรงค์ให้เกิดการรับรู้ถึงความสำคัญของฟันน้ำนม ซึ่งเป็นอวัยวะของวัยเด็กที่ฟันแท้ทดแทนไม่ได้ และให้ผู้ปกครองลงมือปฏิบัติเรื่องการแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น
         หากผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กฟันผุ หรือช่วยชะลอการเกิดฟันผุให้ช้าลง
               
ที่มา: หนังสือนิตยสารหมอชาวบ้าน "เรื่องสุขภาพช่องปาก" ประจำเดือนมกราคม 2556

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น